การหักเหของแสง
เมื่อแสงเดินทางผ่านตัวกลางที่มีความหนาแน่นต่างกัน จะทำให้เกิดการหักเหของแสงขึ้น เช่นการหักเหของแสงขาวเมื่อผ่านปริซึมตามที่ได้กล่าวมาแล้ว การหักเหของแสงแบ่งออกเป็น 2 กรณีดังนี้
1. เมื่อแสงเคลื่อนที่จากตัวกลางที่มีความหนาแน่นมาก เช่น แสงเคลื่อนที่จากอากาศไปสู่พลาสติกที่มีความหนาแน่นมากกว่า แนวรังสีการหักเหจะเบนเข้าหาเส้นปกติ ดังนั้นจึงทำให้มุมหักเห กางน้อยกว่ามุมตกกระทบ e1 น้อยกว่า e2 ดังภาพ
ภาพที่ 1
ภาพที่ 2
จากภาพที่ 2 เมื่อแสงเคลื่อนที่จากตัวกลางที่มีความหนาแน่นมากไปสู่ตัวกลางที่มีความหนาแน่นน้อย เช่น แสงเคลื่อนที่จากแท่งพลาสติกไปสู่อากาศ แนวรังสีหักเหจะเบนออกจากเส้นปกติ จึงทำให้เกิดมุมหักเห( e2 ) มากกว่ามุมตกกระทบ ( e1)
** โดยทั่วไปค่าความหนาแน่นของตัวกลางมีความสัมพันธ์โดยตรงค่าดัชนีหักเหของแสง กล่าวคือวัตถุที่มีความหนาแน่นมาก จะมีค่าดัชนีการหักเหมาก ตัวอย่างเช่น เพชร มีค่าดัชนีหักเห 2.417 ซึ่งมากที่สุดเพราะเพชรมาความหนาแน่นมากที่สุดและแข็งที่สุด
ค่าดัชนีของตัวกลางหาได้จากสูตร
n = c/v
เมื่อ
n = ค่าดัชนีหักเหของของตัวกลางเทียบกับอากาศ
c = ความเร็วของแสงในสุญญากาศ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับความเร็วแสง
ในอากาศ คือ 3 ×108 เมตร / วินาที
c = ความเร็วของแสงในสุญญากาศ ซึ่งมีค่าใกล้เคียงกับความเร็วแสง
ในอากาศ คือ 3 ×
v = ความเร็วของแสงในตัวกลางใดๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น